nostr relay proxy

😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5 https://image.nostr.build/309f87af437d7b6c93e3a387613fa8193f0419edf5c9fd61f977975ef37807bf.jpg
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5 https://image.nostr.build/309f87af437d7b6c93e3a387613fa8193f0419edf5c9fd61f977975ef37807bf.jpg
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
😱สมคำร่ำลือ! สำหรับทอล์คโชว์ที่ดีที่สุดแห่งปีของ อ.ตั๊ม พิริยะ บิตคอยเนอร์ตัวพ่อของเมืองไทยกับ 3 ชั่วโมงที่ฟังแล้วไม่อยากขอเวลาคืน (ทอล์คต่ออีกได้ไหม...) . "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? 🤔ฟังไปสะอึกไป อ.ตั๊ม ฉายเดี่ยวครบทุกอรรถรส เผ็ด หวาน มัน ฮา จัดจ้านสะท้านทรวง เป็นอีกหนึ่งอาหารจานเด็ด ให้คุณได้ลองชิมผ่านเลนส์เศรษฐศาสตร์ สำนักออสเตรียน . ที่แน่นอนว่าหลายๆ อย่างนี่ #อุบร๊ะ! มันช่างขัดแย้งกับที่เราเคยร่ำเรียนมาเสียจริง! หลายแง่มุมที่เราได้อ่านน่าจะกระตุ้น “ต่อมเอ๊ะ!?” ให้เราลองหาคำตอบเพิ่มเติมกันต่อ . หากว่าคุณพร้อมแล้ว…นี่คือ “กุญแจดอกแรก” . . 1.การเข้าใจว่า “โลกนี้ทำงานอย่างไร” มันจะเปลี่ยน “มุมมอง” ของคุณต่อโลกนี้ไป ตลอดกาล . 2.ลองนึกถึงชีวิตมนุษยชาติในทุกวันนี้อยู่ใน “ระบบที่ภาครัฐดูแล” ​และบอกเราว่าอะไรทำได้ไม่ได้และดูแลสวัสดิ การใช้ชีวิตไม่มีอิสรภาพตกอยู่ในสภาวะ “ทาส” 3.“ทาส” คือคนที่ไม่มีอิสรภาพคำว่า “อิสรภาพ” คือสิทธิในการที่คุณจะสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับตัวเลือกในชีวิตด้วยตัวเอง และรับผลกระทบด้วยตัวคุณเอง . 4.ยุคนี้มันไม่ใช่การควบคุมทาสด้วยโซ่ตรวนหรือกฎหมายแต่ “เงิน” คือสิ่งที่ผู้คุมอำนาจใช้เป็นเครื่องมือควบคุมมนุษย์เปรียบเสมือน “ระบบทาสยุคใหม่” . 5.ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ “เวลา” เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหมว่า “จะหยุดทำงานเมื่อไหร่” ​หรือทำในสิ่งที่ตนเองรักกี่โมง . 6.ทางออกเดียวที่จะทำให้เรา “หลุดพ้น” จากสภาวะที่ถูกควบคุมคือ “การออมเงิน” ซึ่งจะนำมาสู่อิสรภาพแต่ “เงินเฟ้อ” กลับกัดกร่อนมูลค่าของเงินลดลงเรื่อยๆ 7.“เงินเฟ้อ” ทำให้การเก็บออมเป็นเรื่องยากมากขึ้น และทำให้คนต้องทำงานไปตลอดชีวิตเพื่อมีรายได้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น . 8.การพิมพ์เงินเพิ่มของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลักของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะหลังการยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้รัฐบาลสามารถพิมพ์เงินได้ไม่จำกัด . 9.การพิมพ์เงินเพิ่มมักถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลเสียในระยะยาว . 10.เงินเฟ้อรุนแรง เกิดขึ้นตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายประเทศทำให้ค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็วเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคมตามมา . -------------------------------------- 11.รัฐบาลรายงานอัตราเงินเฟ้อโดยใช้ CPI ซึ่งไม่สะท้อนการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าที่แท้จริง เนื่องจากสามารถเปลี่ยนแปลงสินค้าในตะกร้าและควบคุมราคาสินค้า . 12.การควบคุมราคาสินค้าโดยรัฐเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ มักนำไปสู่การขาดแคลนสินค้าและปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงยิ่งขึ้น . 13.เงินเฟ้อทำให้ “ค่าแรงเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเงินเสื่อม” ส่งผลให้เกิดวัฒนธรรมการเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อขึ้นเงินเดือน บริษัทขนาดเล็กกลายเป็นทางผ่าน เกิดปัญหาสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ . 14.เมื่อสมองไหลไปสู่บริษัทใหญ่ ส่งผลให้ธุรกิจขนาดเล็กรอดได้ยาก ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ยิ่งเติบโต ความเหลื่อมล้ำทางรายได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ . 15.เงินเฟ้อสูง ทำให้ผู้คนหาทางรักษามูลค่าเงินด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น อสังหาฯ หุ้น ทองคำ ทำให้ตลาดสินทรัพย์เหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว . 16.กองทุนมักจะเน้นลงทุนในหุ้นใหญ่มากกว่าหุ้นเล็ก เกิดบริษัท "ซอมบี้" ที่มีมูลค่าสูงแต่ไม่สร้างผลผลิตจริง เพราะแม้บริษัทใหญ่แต่บางแห่งแทบจะไม่มี Productivity . 17.ทั้งหมดก็มาจาก “เงิน”​ เงินที่ดีต้องทำหน้าที่ 3 ประการคือ เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เก็บมูลค่าและเป็นหน่วยวัดมูลค่าทำให้เราวางแผนอนาคตได้ . 18.แต่ปัญหาของ“เงิน”ในทุกวันนี้ นอกเหนือจากเสื่อมค่าลงทุกปีแล้วเราไม่รู้ว่ามันจะเสื่อมค่าต่อปีเท่าไหร่ การวางแผนชีวิตระยะยาวจึงเป็นไปได้ยากมาก . 19.แม้แต่สหรัฐฯ ก็เผชิญปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงในช่วงโควิด แค่ปีเดียวปริมาณเงินเพิ่มขึ้น 43% มูลค่าเงินลดลงเกือบครึ่งโดยที่ปชช.ไม่รู้ตัว ตอนนี้ราคาสินค้ากำลังเพิ่มขึ้น . 20.เงินเฟ้อเป็นการลงโทษคนที่เก็บออมแต่ให้รางวัลกับคนที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคล้ายกับระบบทาสที่ผู้คุมให้เงินพอยังชีพแต่คุมราคาสินค้า ทำให้ออมยาก รวยก็ยาก . -------------------------------------- 21.การควบคุมปริมาณเงินเป็นเครื่องมือควบคุมสังคม มีการทดลองในค่ายกักกันทหารที่ใช้บุหรี่เป็นเงินพบว่า การเพิ่มปริมาณบุหรี่ทำให้โครงสร้างอำนาจในค่ายเปลี่ยนแปลง . 22.เมื่อมีผู้ผลิตเงินเป็นรัฐบาล แล้วสามารถใช้การควบคุมปริมาณเงินในการควบคุมสังคมได้ รัฐบาลจะกลายเป็นลูกค้าสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง แทนที่จะเป็นประชาชน . 23.ระบบการศึกษาและระบบสุขภาพถูกบิดเบือนเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จ่ายเงิน เน้นวัดที่ปริมาณผู้ที่เรียนจบตามเคพีไอรัฐ ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน . 24.ประวัติศาสตร์นับครั้งไม่ถ้วนบอกเราว่า การทำให้เงินเฟ้อหรือการที่รัฐบาลใช้เงินเป็นเครื่องมือในการปกครอง สร้างให้เกิดจุดจบของอารยธรรม . 25.เงินฝืด ถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีแต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประชาชน เพราะทำให้สินค้าราคาถูกลงและเงินออมมีค่ามากขึ้น . 26.การใช้ “ทองคำ” เป็นมาตรฐานเงินตราช่วยให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 18-19 แต่การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ . 27.เงินเฟ้อทำให้การลงทุนระยะยาว และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ลดลง เนื่องจากนักลงทุนต้องการผลตอบแทนเร็วเพื่อชดเชยค่าเงินที่เสื่อมลง . 28.การพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมในช่วงศตวรรษที่ 20 ช้าลง เมื่อเทียบกับศตวรรษก่อนหน้า เนื่องจากระบบเงินที่ไม่มั่นคง . 29.ระบบเงินที่มั่นคงจะช่วยให้คนมีอิสรภาพในการเลือกทำงานที่ตนรัก และส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ . 30.การเก็บออมในทองคำและที่ดินเป็นวิธีรักษามูลค่าเงินที่ดี แต่ก็จะมีกฎหมายควบคุม เช่น ภาษีที่ดินซึ่งอาจกระทบต่อเจ้าของที่ดินรายย่อยมากกว่านายทุน . -------------------------------------- 31.ในปี 2008 มีการเผยแพร่แนวคิดการสร้างเงินอิเล็กทรอนิกส์แบบ peer-to-peer โดยบุคคลนิรนามชื่อ “ซาโตชิ นากาโมโต” สิ่งนั้นคือ “บิตคอยน์” . 32.ก่อนหน้านี้กลุ่ม Cypherpunks เคยพยายามสร้างเงินตามแนวคิดนี้แต่ไม่สำเร็จพวกเขาเป็นกลุ่มโปรแกรมเมอร์ที่ต่อต้านการควบคุมของรัฐบาล พัฒนาเทคฯ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว . 33.บิตคอยน์มีอุปทานจำกัดอยู่ที่ 21 ล้านเหรียญและไม่มีใครสามารถผลิตขึ้นมาได้โดยที่ไม่มีต้นทุน ทุกคนต้องทำ PoW ใช้ไฟ ใช้พลังงานสร้าง Productivity . 34.การมีจำกัดหมายความว่าคุณมี 1 บิตคอยน์ในวันนี้ผ่านไป 100 ปีก็ยังมี 1 ใน 21 ล้านเหรียญเหมือนเดิม เป็นนโยบายการเงินที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ . 35.นโยบายการเงินนั้นๆ จะทำให้ “เงินเฟ้อหรือเงินฝืด” ไม่สำคัญเท่ากับการเป็นนโยบายการเงินที่ “สามารถคาดเดาได้” เพราะทำให้ผู้คนสามารถวางแผนอนาคตได้ . 36.ปัจจุบัน bitcoin ถูกผลิตออกมาแล้ว 94% เหลืออีกประมาณ 1.2 ล้าน bitcoin ที่จะทยอยออกมาในอีกประมาณ 120 ปีต่อจากนี้ . 37.บิตคอยน์อยู่รอดมาได้ 15 ปีและสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบันอันดับ 10 ของโลกแล้ว . 38.มูลค่าบิตคอยน์เทียบดอลลาร์ราคาอาจจะแกว่ง แต่ถ้าเทียบ 1 บิตคอยน์ = 1 บิตคอยน์จากทั้งหมด 21 ล้านบิตคอยน์ มันก็จะมีเท่านั้นตลอดไป . 39.หนังสือ The Bitcoin Standard ที่แปลเล่มแรก อ.ตั๊ม พยายามหาสำนักพิมพ์ที่จะตีพิมพ์แต่ส่วนใหญ่ปฏิเสธบอกว่าไม่ยุ่งกับ scam แต่มีซีเอ็ดยอมพิมพ์ให้ . 40.โดยสรุป “คุณจะออมเป็นอะไรก็ได้” แต่ขอให้เข้าใจในสิ่งที่ออม และหากบอกว่าไม่มีเงินแต่อยากออม bitcoin ก็ลองพิจารณาคำพูดของพี่วิชิตบิตคอยเนอร์ตัวพ่อที่มักบอกอยู่เสมอว่า ​“แดกก่อนเก็บ!” . . 😃เอาล่ะ! จากนี้ไป “กุญแจดอกที่สอง” อยู่ในมือคุณแล้ว อยู่ที่คุณจะไขมันลึกลงเพียงใด หรือจะหยุดมันไว้เพียงเท่านี้… ------------------------------------------------ 👉หากไม่สาแก่ใจตามไปตาแฉะหูชื้นกัน 3 ชั่วโมงเต็มที่ช่องยูทูบ Right Shift ตอน "Exit The Matrix" อยากหลุดพ้น...หรือวนลูปเดิม? https://www.youtube.com/watch?v=1sFX_VsHHvY&t=4040s ------------------------------------------------ 👉อัปเดตข่าว ก้าวทันโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ที่นี่ https://www.efinancethai.com/LastestNews/Crypto.aspx *การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน #คริปโต #คริปโท #สกุลเงินดิจิตอล #บล็อกเชน #สินทรัพย์ดิจิทัล #โทเคน #บิตคอยน์ #บิทคอยน์ #เงินดิจิตอล #Bitcoin #BTC #Ethereum #ETH #Ether #Crypto #Blockchain #DigitalAsset #AI #Cybersecurity #ฟินเทค #efinanceThai #อีไฟแนนซ์ไทย @siamstr ------------------------------------------------ 👉มาค้นหาโอกาสใหม่ๆ ไปด้วยกัน! ที่งาน BetterTrade 2024 : The Next Wealth Opportunity 👉ลงทะเบียนฟรี : https://bit.ly/BTT2024Piriya 👉วันที่ 2 พฤศจิกายน 2024 Samyan Mitrtown Hall ชั้น5
{"id":"a0441796acecfeb437a76a1d27cb7faa95798e38d684d4f9ab0d9e92fae5329d","sig":"b70000cb71c2f015713c25d51fee15160c0cca1e8580518b14a5476119eb2047b5c8903f7fae5e7dec836c025ddc62f6b5380e75fc204dd4d8000dacda59266f","kind":1,"tags":[["e","c86abf875f66e3155beacae7c5b76dc6531cd649779b4bdc4c75035cdd607872","","mention"],["p","c6f7077f1699d50cf92a9652bfebffac05fc6842b9ee391089d959b8ad5d48fd","","mention"],["q","c86abf875f66e3155beacae7c5b76dc6531cd649779b4bdc4c75035cdd607872"],["r","https://zpay.live"],["r","https://i.imgur.com/iM7UtWq.jpeg"]],"pubkey":"c6f7077f1699d50cf92a9652bfebffac05fc6842b9ee391089d959b8ad5d48fd","content":"This is an early development version, so please use it with caution and with small amounts. \n\nhttps://zpay.live\n\nhttps://i.imgur.com/iM7UtWq.jpeg\nnostr:nevent1qqsvs64lsa0kdcc4t04v4e79kakuv5cu6eyh0x6tm3x82q6um4s8suspzpmhxue69uhkummnw3ezumt0d5hsygxx7urh795e65x0j25k22l7hlavqh7xss4eacu3pzwetxu26h2gl5psgqqqqqqsfheg68","created_at":1728214210}
I think so but I dunno if they're gonna share the whole thing because it was a private event.
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
#bitcoin #atm popping up everywhere
it will always be that because as the number and variety of relays and relay hosting options there are the easier it will get to keep your feed with only your tribe's content we are far from needing this at this point, the lack of serious scammy spam content proves that nobody in the scamming space considers us marks for their rackets
nostr:naddr1qqsyzmrfv9hv8fmptapk7mnnv4e8vctydaexzh6zwfshx6tvv45hycgzyr4dzsdp8n50sx5khe7crye9rrxp5v7ss0jng3usupxyt2mz9apfsqcyqqqgdasue9j59 Entrando no Mundo do Bitcoin – Guia Simples e Atualizado https://image.nostr.build/03a3a76ead0704ce40dd793f60975a198017a58547352fa3d1252d73dc2ff266.jpg O Bitcoin tem revolucionado a forma como pensamos sobre dinheiro e finanças desde seu surgimento em 2009. Como a primeira moeda digital descentralizada, ele não apenas desafia o sistema financeiro tradicional, mas também oferece uma nova perspectiva sobre a propriedade e a troca de valor. Com transações rápidas, seguras e com taxas baixas, especialmente através da Lightning Network. Este guia o conduzirá pelos primeiros passos, desde a escolha de uma carteira até a importância da autocustódia. Glossário de Termos Bitcoin: Moeda digital descentralizada. Carteira Custodial: Armazena Bitcoins em nome do usuário, onde a corretora controla o acesso aos ativos. Carteira Não Custodial: O usuário controla seus Bitcoins diretamente, sem intermediários. Seed Phrase: Conjunto de palavras que serve como backup da sua carteira e é fundamental para dar o acesso aos seus Bitcoins. Lightning Network: Rede que permite transações rápidas e baratas no Bitcoin. O Que São Carteiras Custodiais e Não Custodiais? Antes de mergulhar nas etapas práticas, é fundamental entender a diferença entre carteiras custodiais e não custodiais, pois essa escolha influenciará seu controle sobre os Bitcoins. Uma carteira como a Bipa armazena seus Bitcoins em nome do usuário. A corretora detém o acesso aos ativos, e seu Bitcoin está vinculado ao seu CPF. Embora ofereça conveniência, em casos de ordens judiciais ou falência da corretora, seus ativos podem ser confiscados. Carteira Não Custodial: Com uma carteira como a Phoenix Wallet, você é o único que controla seus Bitcoins. Sua identidade não está vinculada ao seu CPF, e a segurança dos seus ativos depende apenas de você. Ao criar sua conta, você receberá uma seed phrase, que é crucial para acessar seus Bitcoins. Essa frase é a chave para acessar e recuperar sua carteira. Para iniciantes, a Bipa é uma ótima opção para dar os primeiros passos no mundo do Bitcoin.Primeiro, baixe o aplicativo Bipa na loja de aplicativos do seu smartphone, disponível tanto para Android quanto para iOS. Após a instalação, abra o aplicativo e siga as instruções para criar uma conta. Você precisará fornecer algumas informações básicas, como seu CPF, para a verificação de identidade. Uma vez que sua conta estiver configurada, você pode depositar reais e, em seguida, comprar Bitcoin diretamente pelo aplicativo. A Bipa oferece uma interface amigável e taxas competitivas, facilitando a experiência de compra. Avançando para a Phoenix Wallet Depois de se familiarizar com a Bipa, é hora de considerar uma carteira não custodial, como a Phoenix Wallet, para obter maior controle sobre seus ativos. Baixe a Phoenix Wallet na loja de aplicativos do seu smartphone. O processo de instalação é simples e direto. Ao abrir o aplicativo pela primeira vez, você será guiado para criar uma nova carteira. Durante esse processo, você receberá uma sequência de doze palavras (seed phrase). Essas palavras são essenciais para acessar e recuperar sua carteira. Anote essas palavras em um local seguro e nunca as compartilhe. Elas são a chave para acessar seus Bitcoins. Se você perder sua carteira ou trocar de dispositivo, a seed phrase permitirá que você recupere todos os seus ativos em qualquer outra carteira compatível. Com ambas as carteiras instaladas, é hora de entender como movimentar seus Bitcoins. Após adquirir Bitcoin na Bipa, você pode transferi-los para a Phoenix Wallet. No aplicativo Bipa, acesse sua carteira e selecione a opção de enviar. Insira o endereço da sua Phoenix Wallet e confirme a transação. Tanto a Bipa quanto a Phoenix operam na Lightning Network, uma solução que permite transações instantâneas e com taxas significativamente menores. Essa rede é ideal para realizar pagamentos rápidos e economizar em custos de transação. Para garantir a segurança dos seus ativos, aqui estão algumas dicas: Habilite a autenticação em duas etapas: Isso adiciona uma camada extra de proteção à sua conta. Desconfie de e-mails e mensagens de phishing: Nunca clique em links suspeitos ou forneça informações pessoais a fontes não confiáveis. Mantenha seu dispositivo seguro: Use senhas fortes e mantenha o software do seu smartphone atualizado. Começar sua jornada no Bitcoin com a Bipa oferece uma introdução suave e segura ao mundo das criptomoedas. À medida que você se torna mais confortável, a migração para uma carteira não custodial como a Phoenix Wallet é uma etapa importante para garantir a segurança e o controle total sobre seus ativos. Esses passos iniciais não apenas proporcionarão uma experiência positiva, mas também garantirão que você esteja no controle de suas finanças digitais. #nostr #conectadossite #btc #bitcoin https://www.conectados.site/2024/10/entrando-no-mundo-do-bitcoin-guia.html
nostr:naddr1qqsyzmrfv9hv8fmptapk7mnnv4e8vctydaexzh6zwfshx6tvv45hycgzyr4dzsdp8n50sx5khe7crye9rrxp5v7ss0jng3usupxyt2mz9apfsqcyqqqgdasue9j59 Entrando no Mundo do Bitcoin – Guia Simples e Atualizado https://image.nostr.build/03a3a76ead0704ce40dd793f60975a198017a58547352fa3d1252d73dc2ff266.jpg O Bitcoin tem revolucionado a forma como pensamos sobre dinheiro e finanças desde seu surgimento em 2009. Como a primeira moeda digital descentralizada, ele não apenas desafia o sistema financeiro tradicional, mas também oferece uma nova perspectiva sobre a propriedade e a troca de valor. Com transações rápidas, seguras e com taxas baixas, especialmente através da Lightning Network. Este guia o conduzirá pelos primeiros passos, desde a escolha de uma carteira até a importância da autocustódia. Glossário de Termos Bitcoin: Moeda digital descentralizada. Carteira Custodial: Armazena Bitcoins em nome do usuário, onde a corretora controla o acesso aos ativos. Carteira Não Custodial: O usuário controla seus Bitcoins diretamente, sem intermediários. Seed Phrase: Conjunto de palavras que serve como backup da sua carteira e é fundamental para dar o acesso aos seus Bitcoins. Lightning Network: Rede que permite transações rápidas e baratas no Bitcoin. O Que São Carteiras Custodiais e Não Custodiais? Antes de mergulhar nas etapas práticas, é fundamental entender a diferença entre carteiras custodiais e não custodiais, pois essa escolha influenciará seu controle sobre os Bitcoins. Uma carteira como a Bipa armazena seus Bitcoins em nome do usuário. A corretora detém o acesso aos ativos, e seu Bitcoin está vinculado ao seu CPF. Embora ofereça conveniência, em casos de ordens judiciais ou falência da corretora, seus ativos podem ser confiscados. Carteira Não Custodial: Com uma carteira como a Phoenix Wallet, você é o único que controla seus Bitcoins. Sua identidade não está vinculada ao seu CPF, e a segurança dos seus ativos depende apenas de você. Ao criar sua conta, você receberá uma seed phrase, que é crucial para acessar seus Bitcoins. Essa frase é a chave para acessar e recuperar sua carteira. Para iniciantes, a Bipa é uma ótima opção para dar os primeiros passos no mundo do Bitcoin.Primeiro, baixe o aplicativo Bipa na loja de aplicativos do seu smartphone, disponível tanto para Android quanto para iOS. Após a instalação, abra o aplicativo e siga as instruções para criar uma conta. Você precisará fornecer algumas informações básicas, como seu CPF, para a verificação de identidade. Uma vez que sua conta estiver configurada, você pode depositar reais e, em seguida, comprar Bitcoin diretamente pelo aplicativo. A Bipa oferece uma interface amigável e taxas competitivas, facilitando a experiência de compra. Avançando para a Phoenix Wallet Depois de se familiarizar com a Bipa, é hora de considerar uma carteira não custodial, como a Phoenix Wallet, para obter maior controle sobre seus ativos. Baixe a Phoenix Wallet na loja de aplicativos do seu smartphone. O processo de instalação é simples e direto. Ao abrir o aplicativo pela primeira vez, você será guiado para criar uma nova carteira. Durante esse processo, você receberá uma sequência de doze palavras (seed phrase). Essas palavras são essenciais para acessar e recuperar sua carteira. Anote essas palavras em um local seguro e nunca as compartilhe. Elas são a chave para acessar seus Bitcoins. Se você perder sua carteira ou trocar de dispositivo, a seed phrase permitirá que você recupere todos os seus ativos em qualquer outra carteira compatível. Com ambas as carteiras instaladas, é hora de entender como movimentar seus Bitcoins. Após adquirir Bitcoin na Bipa, você pode transferi-los para a Phoenix Wallet. No aplicativo Bipa, acesse sua carteira e selecione a opção de enviar. Insira o endereço da sua Phoenix Wallet e confirme a transação. Tanto a Bipa quanto a Phoenix operam na Lightning Network, uma solução que permite transações instantâneas e com taxas significativamente menores. Essa rede é ideal para realizar pagamentos rápidos e economizar em custos de transação. Para garantir a segurança dos seus ativos, aqui estão algumas dicas: Habilite a autenticação em duas etapas: Isso adiciona uma camada extra de proteção à sua conta. Desconfie de e-mails e mensagens de phishing: Nunca clique em links suspeitos ou forneça informações pessoais a fontes não confiáveis. Mantenha seu dispositivo seguro: Use senhas fortes e mantenha o software do seu smartphone atualizado. Começar sua jornada no Bitcoin com a Bipa oferece uma introdução suave e segura ao mundo das criptomoedas. À medida que você se torna mais confortável, a migração para uma carteira não custodial como a Phoenix Wallet é uma etapa importante para garantir a segurança e o controle total sobre seus ativos. Esses passos iniciais não apenas proporcionarão uma experiência positiva, mas também garantirão que você esteja no controle de suas finanças digitais. #nostr #conectadossite #btc #bitcoin https://www.conectados.site/2024/10/entrando-no-mundo-do-bitcoin-guia.html
next
prev

rendered in 219.563672ms