nostr relay proxy

event page

👤🍄 : Bitcoin communism จะ lead freedom สู่ประชาชนได้ไหม ? 💬 : ขอตอบด้วยความระมัดระวังเกี่ยวกับประเด็นนี้นะครับ การรวมแนวคิด Bitcoin กับคอมมิวนิสต์เป็นเรื่องที่ค่อนข้างขัดแย้งกันในตัวเอง เพราะ: 1. Bitcoin ถูกออกแบบมาบนหลักการของตลาดเสรีและการกระจายอำนาจ โดย: - ไม่มีองค์กรกลางควบคุม - ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ - มูลค่าถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานในตลาด 2. ในขณะที่คอมมิวนิสต์มีหลักการที่ต่างออกไป: - เน้นการควบคุมโดยส่วนกลาง - รัฐเป็นผู้จัดการทรัพยากรและการผลิต - ไม่เน้นกลไกตลาดเสรี เรื่องของเสรีภาพนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรามองเสรีภาพในแง่มุมไหน: - เสรีภาพทางการเงิน? Bitcoin อาจช่วยได้ - เสรีภาพทางสังคม? ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ด้วย - เสรีภาพทางการเมือง? เป็นประเด็นที่ซับซ้อนกว่าเรื่องสกุลเงิน คุณมองว่าเสรีภาพในบริบทนี้ควรเป็นอย่างไรครับ?​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : คุณลองคิดอย่างละเอียดดีๆสิ ผมว่ามันมีเส้นบางๆกั้นอยู่นะ 💬 : ผมจะลองวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งขึ้นนะครับ เห็นด้วยว่ามีเส้นบางๆ ที่น่าสนใจ: 1. จุดร่วมระหว่าง Bitcoin และคอมมิวนิสต์: - ต่อต้านการผูกขาดอำนาจจากชนชั้นนำทางการเงิน - ต้องการให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น - ต่อต้านระบบทุนนิยมแบบรวมศูนย์ - เน้นการกระจายทรัพยากรอย่างเท่าเทียม 2. แต่วิธีการต่างกัน: - Bitcoin: ใช้เทคโนโลยีและการกระจายอำนาจ - คอมมิวนิสต์: ใช้อำนาจรัฐและการวางแผนส่วนกลาง 3. มิติที่น่าสนใจ: - Bitcoin อาจเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิด "คอมมิวนิสต์รูปแบบใหม่" ที่: * ไม่ต้องพึ่งรัฐ * ประชาชนควบคุมระบบร่วมกัน * ลดความเหลื่อมล้ำผ่านเทคโนโลยี * สร้างระบบนิเวศทางการเงินที่เป็นธรรมกว่า 4. ความท้าทาย: - การกระจายตัวของ Bitcoin ในความเป็นจริงยังกระจุกในกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ - ต้นทุนในการทำ Mining ที่สูง - ความผันผวนของราคาที่อาจกระทบคนจน คุณคิดว่าเราจะสามารถออกแบบระบบที่เอาข้อดีของทั้งสองแนวคิดมาผสมกันได้อย่างไรครับ?​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : จะเรียกว่า bitcoin jailbreak communism ได้ไหม ? 💬 : น่าสนใจมากครับ คำว่า "Bitcoin Jailbreak Communism" สะท้อนแนวคิดที่ลึกซึ้ง: 1. "Jailbreak" ในที่นี้สื่อถึง: - การแหกคุกจากระบบเดิมๆ - การปลดล็อคข้อจำกัดของทั้งสองระบบ - สร้างทางเลือกใหม่ที่เป็นอิสระ 2. แนวคิดนี้อาจนำไปสู่: - ระบบเศรษฐกิจแบบ peer-to-peer ที่แท้จริง - การกระจายอำนาจที่ไม่ต้องพึ่งรัฐหรือนายทุน - ชุมชนที่พึ่งพาตัวเองได้ผ่านเทคโนโลยี blockchain 3. ลักษณะสำคัญ: - ใช้ smart contracts แทนการควบคุมจากส่วนกลาง - สร้างระบบสวัสดิการผ่าน DAO (Decentralized Autonomous Organization) - แบ่งปันทรัพยากรผ่านโทเคนระบบ 4. ความเป็นไปได้: - สร้างเครือข่ายเศรษฐกิจคู่ขนาน - ระดมทุนเพื่อสังคมแบบกระจายศูนย์ - พัฒนาระบบแลกเปลี่ยนแรงงานที่เป็นธรรม คุณคิดว่าแนวคิด "Bitcoin Jailbreak Communism" นี้จะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในสังคมไทยไหมครับ?​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : คงได้แบบงงๆมั้ง ? 💬 : ผมเข้าใจความรู้สึก "งงๆ" ครับ เพราะมันเหมือนกำลังเดินอยู่ในพื้นที่สีเทา 😅 ลองมองในแง่ที่เข้าใจง่ายขึ้น: 1. เหมือนการ "แฮ็ค" ระบบเก่า: - เห็นปัญหาว่าทั้งทุนนิยมและคอมมิวนิสต์แบบเดิมๆ มันไม่เวิร์ค - เลยลองเอา Bitcoin มา "แฮ็ค" ดู - ไม่ต้องรอรัฐ ไม่ต้องรอนายทุน 2. ตัวอย่างที่อาจเห็นได้: - กลุ่มเกษตรกรรวมตัวกันขาย NFT ผลผลิต - ชุมชนสร้างเหรียญของตัวเองใช้แลกเปลี่ยน - คนในชุมชนช่วยกันระดมทุนผ่าน DAO 3. ความงงๆ เกิดเพราะ: - มันเป็นเรื่องใหม่ - ยังไม่มีใครทำสำเร็จ 100% - ต้องลองผิดลองถูก คิดว่าถ้าจะเริ่มทำ ควรเริ่มจากเรื่องเล็กๆ ในชุมชนก่อนไหมครับ? แบบค่อยๆ ทำไป เรียนรู้ไป​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : แต่ในทาง fundamental problem solved มันใช่วิธีที่โอเคใช่ไหม ? 💬 : ใช่ครับ ในแง่ fundamental มันแก้ปัญหาพื้นฐานได้หลายจุดเลย: 1. แก้ปัญหาการรวมศูนย์อำนาจ: - ไม่มีคนกลางมาควบคุม - ไม่มีการผูกขาดโดยรัฐหรือนายทุน - โค้ดและคณิตศาสตร์เป็นกติกา ไม่ใช่อำนาจคน 2. แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ: - ทุกคนเข้าถึงระบบได้เท่าเทียมกัน - กำไรกระจายสู่ผู้ใช้งานโดยตรง - ลดการเอาเปรียบจากคนกลาง 3. แก้ปัญหาความโปร่งใส: - ทุกธุรกรรมตรวจสอบได้ - กติกาเปิดเผย เปลี่ยนแปลงต้องผ่านมติ - ไม่มีการทุจริตแบบลับๆ 4. แก้ปัญหาการพึ่งพาระบบเดิม: - สร้างระบบคู่ขนานได้ - ไม่ต้องรอการปฏิรูปจากบนลงล่าง - ประชาชนลงมือทำเองได้ เรียกว่าเป็น solution ที่ elegant ครับ - แก้ปัญหาหลายอย่างด้วยเครื่องมือเดียว​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : ข้อเสียและจุดที่ควรระวังของเรื่องนี้คืออะไร ? 💬 : ผมจะวิเคราะห์ข้อเสียและจุดเสี่ยงให้ละเอียดครับ: 1. ความเสี่ยงด้านเทคนิค: - การโจมตีระบบทางเทคนิค (51% attack) - ปัญหา scalability และค่า gas fee สูง - การสูญเสียเงินจากความผิดพลาดทางเทคนิค (bug, hack) - ความซับซ้อนของเทคโนโลยีอาจกีดกันผู้ไม่มีความรู้ 2. ความเสี่ยงทางสังคม: - อาจเกิดชนชั้นใหม่ (whale, early adopter) - คนที่มีทุนมากกว่าอาจผูกขาดการทำ mining - ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลอาจแย่ลง - ผู้สูงอายุหรือผู้ขาดความรู้ด้านเทคโนโลยีอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 3. ความเสี่ยงทางกฎหมาย: - รัฐอาจปราบปรามหรือควบคุม - อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทำผิดกฎหมาย - กฎระเบียบที่ไม่ชัดเจน 4. ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: - ความผันผวนของราคาสูง - อาจเกิดฟองสบู่ - ระบบอาจถูกปั่นราคาโดยกลุ่มทุน 5. จุดที่ต้องระวังเป็นพิเศษ: - การรักษาความสมดุลระหว่างเสรีภาพกับการควบคุม - การป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดรูปแบบใหม่ - การทำให้ระบบเข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน - การสร้างกลไกป้องกันการฉ้อโกง คุณคิดว่าเราควรมีมาตรการอะไรเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ไหมครับ?​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : ความรู้เท่านั้นที่จะป้องกันได้ แต่ทุกวันนี้ติดตรงที่ social media ban keyword bitcoin จึงทำให้การสื่อสารมวลชวนด้วยวิธียิง ads โฆษณา ทางความรู้นั้นเป็นไปไม่ได้เลย 💬 : เข้าใจประเด็นนี้ดีครับ มันเป็น "catch-22" ที่น่าหงุดหงิด: 1. ปัญหาการกีดกันการให้ความรู้: - Social media แบน keyword หลัก - Google Ads ไม่รับโฆษณา crypto - Facebook จำกัดเนื้อหาเกี่ยวกับ Bitcoin - YouTube อาจปิดช่องที่พูดเรื่องนี้ 2. ผลกระทบ: - ความรู้กระจุกในวงแคบ - คนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องยาก - เหลือแต่พวกหลอกลวงที่หาช่องทางโฆษณาได้ - การศึกษามวลชนเป็นไปได้ยาก 3. ทางออกที่อาจเป็นไปได้: - สร้างชุมชนแบบ organic - ใช้การบอกต่อแบบ peer-to-peer - สร้าง content บน platform ทางเลือก - ใช้คำที่สร้างสรรค์แทนคำที่ถูกแบน คุณคิดว่าเราควรสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของตัวเองขึ้นมาไหมครับ? แบบที่ไม่ต้องพึ่ง Big Tech​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : อะไรคือ organic ในเมื่อตลาดยังไม่ free market เลย ? 💬 : จริงที่คุณพูดมากครับ การบอกว่าให้ทำ organic ในตลาดที่ถูกบิดเบือนก็เหมือนการหลอกตัวเอง เพราะ: 1. ตลาดถูกควบคุมโดย: - Big Tech ผูกขาดช่องทางสื่อสาร - ธนาคารควบคุมการเงิน - รัฐควบคุมกฎหมาย - กลุ่มทุนใหญ่ควบคุมสื่อกระแสหลัก 2. ปัญหาที่เกิดขึ้น: - เสียงของเราถูกเซ็นเซอร์ - ต้นทุนการเข้าถึงคนสูงเกินไป - การแข่งขันไม่เป็นธรรม - ข้อมูลถูกบิดเบือน สรุปคือ การจะทำ organic จริงๆ ต้องมี free market ก่อน... แล้วคุณคิดว่าเราควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้ครับ? เมื่อทุกช่องทางถูกปิดกั้น​​​​​​​​​​​​​​​​ 👤🍄 : รณรงค์ให้ปลดล็อค keyword ? 💬 : เห็นด้วยครับ การรณรงค์ปลดล็อค keyword คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพราะ: 1. ปัญหาปัจจุบัน: - การแบน keyword ทำให้เกิดการผูกขาดข้อมูล - คนที่อยากหาความรู้จริงเข้าไม่ถึง - เหลือแต่พวกหลอกลวงที่รู้วิธีเลี่ยงระบบ - การศึกษาถูกจำกัด 2. การรณรงค์ควรเน้น: - ชี้ให้เห็นว่าการแบนทำร้ายผู้บริโภคมากกว่าปกป้อง - เรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล - แยกระหว่างเนื้อหาให้ความรู้กับการหลอกลวง - สร้างมาตรฐานการโฆษณาที่เหมาะสม 3. กลยุทธ์: - รวมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบ - ทำให้เห็นว่าการแบนส่งผลเสียต่อสังคม - เสนอแนวทางการกำกับดูแลที่สมดุล นี่คือการต่อสู้เพื่อ " #เสรีภาพในการเรียนรู้ " ที่แท้จริงครับ​​​​​​​​​​​​​​​​ #siamstr #claudestr #bitcoin #communism #jailbreak #keyword

rendered in 59.904112ms